ทักษิณ ซักฟอก ประยุทธ์ ผ่านคลับเฮาส์ แนะ ประยุทธ์ ‘อยู่ไปก็มีแต่คนไล่ ออกไปเถอะน้อง’ หลังบริหารประเทศล้มเหลว นาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือ โทนี่ วูดซัม ได้พูดในคลับเฮาส์ ในหัวข้อ “ขอไม่ไว้วางใจประยุทธ์ด้วยคน” การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีอีก 5 คน โดยมีรายละเอียดดังนี้
“การบริหารมา 7 ปีที่ไม่สามารถทำให้ประเทศดีขึ้นตามสัญญา
การบริหารจัดการวิกฤตโควิดที่ไม่มีประสิทธิภาพ ผู้ป่วยนับล้าน ผู้เสียชีวิตนับหมื่น การบริหารเศรษฐกิจที่ไม่เข้าใจยุคสมัย ทำให้เศรษฐกิจตกต่ำ ธุรกิจล้มละลาย การบริหารจัดการเงินกู้ 1 ล้านล้านบาทที่ไร้ทิศทางผิดฝาผิดตัวไปเสียหมด การบริหารราชการแผ่นดินที่ล้มเหลว แล้วยังมาเกิดเรื่องอื้อฉาวของวงการตำรวจ จนทำประชาชนเสื่อมศรัทธา ทั้งๆที่สัญญาว่าจะปฏิรูป การบริหารงานที่ผิดพลาดทั้งหมดนี้นำมาซึ่ง “ความอดอยาก ความเจ็บปวด และ การล้มตาย” อย่างไม่ควรเกิดขึ้นของพี่น้องประชาชน
แน่นอนปฏิเสธไม่ได้ว่าความผิดพลาดทั้งหมดนี้คือความรับผิดชอบของพลเอกประยุทธ์ในฐานะ “ผู้นำประเทศ”
ครั้งนี้พี่โทนี่จึงมาร่วมแสดงพลังกับพี่น้องประชาชน โดย “ขอไม่ไว้วางใจประยุทธ์ด้วยอีกคน” และจะมาร่วมอภิปรายว่า “เหตุใดเราจึงไม่ควรไว้วางใจประยุทธ์”
รวมถึง พิเศษ! ยุทธศาสตร์ที่สัญญาไว้ ครั้งนี้พี่โทนี่จะประกาศให้ฟังกันอย่างชัดๆ เจอกับพี่โทนี่ได้ในรายการ Care Talk x Care ClubHouse วันอังคารที่ 31 สิงหาคมนี้ เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป
ทาง Facebook & YouTube : CARE คิดเคลื่อนไทย หรือ ใครที่ขอไม่ไว้วางใจประยุทธ์ด้วย ก็มาร่วมพูดคุยกันได้ใน CARE ClubHouse “อยู่ไปก็มีแต่คนไล่ ออกไปเถอะน้อง”
โฆษก รบ. เผย นายก กำลังอยู่ระหว่างการผลักดัน ปฏิรูปตำรวจ
โฆษก รบ. ได้ทำการเปิดเผยว่า นายก กำลังดำเนินการผลักดันให้มีการ ปฏิรูปตำรวจ โดยในระหว่างนี้ยังอยู่ในขั้นพิจารณาวาระ พร้อมกับได้จี้ให้ สตช. ปฏิรูปเร่งด่วน โฆษกรัฐบาลย้ำ นายกฯ เดินหน้า ปฏิรูปตำรวจ แจงอยู่ในขั้นตอนพิจารณาวาระ 2-3 ของสภาฯ จี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งปฏิรูปเร่งด่วน 7 ด้าน กำชับกระบวนการยุติธรรมที่เข้มแข็ง ย้ำทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หากเจ้าหน้าที่กระทำผิด ต้องรับโทษขั้นสูงสุด
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบข้อห่วงใยและกระแสเรียกร้องการปฏิรูปตำรวจจากภาคประชาชน ยืนยันว่ารัฐบาลเดินหน้าปฏิรูปองค์กรตำรวจ โดยยึดหลักสาระสำคัญตามที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ในหมวดปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ซึ่งขณะนี้ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ… อยู่ระหว่างการพิจารณาของกรรมาธิการร่วมของรัฐสภาแล้ว
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีย้ำว่า กระบวนการยุติธรรมที่เข้มแข็ง คือเสาหลักในการบริหารประเทศ และได้สั่งการสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ดำเนินการปฏิรูปในระยะเร่งด่วน 7 ด้านคือ
ด้านโครงสร้างของตำแหน่งข้าราชการตำรวจ
ด้านพัฒนาทรัพยากรบุคคล
ด้านระบบงานสอบสวนและการบังคับใช้กฎหมาย
ด้านการนำระบบเทคโนโลยีมาสนับสนุนการรักษาความปลอดภัย
ด้านส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน
ด้านการตรวจสอบและกำกับการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใส
ด้านสวัสดิการตำรวจ
นายธนกร กล่าวต่อว่า สำหรับการปฏิรูปโดยแก้ไขกฎหมายนั้น มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2561 เห็นชอบในหลักการร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ที่คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) เสนอ แล้วส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ต่อมามีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 203/2562 ลงวันที่ 22 สิงหาคม 2562 แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. …. และร่างพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีอาญา พ.ศ. …. โดยมีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธานกรรมการ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นเลขานุการ ซึ่งได้ยกร่างกฎหมายจำนวน 2 ฉบับ คือ ร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. …. และร่างพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีอาญา พ.ศ. …. จากนั้นมีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2564 เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. …. ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ปรับปรุงแก้ไขแล้ว และให้เสนอรัฐสภา จากนั้นเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 4 ได้พิจารณาและลงมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. …. ซึ่งคณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ และตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. …. โดยได้ประชุมมาแล้วถึง 11 ครั้ง
โฆษกรัฐบาล ได้กล่าวไว้ว่า “ท่านนายกรัฐมนตรีเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงองค์กรตำรวจ ด้วยการยกร่าง พ.ร.บ. ตำรวจ ที่ขณะนี้อยู่ในกระบวนการพิจารณาของฝ่ายนิติบัญญัติ โดยรัฐสภา รัฐบาลพร้อมสนับสนุนเพื่อให้เกิดขึ้นจริง โดยคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ ขอให้ความมั่นใจว่า ทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎหมายทุกฉบับที่มีอยู่ด้วยความสุจริต โปร่งใส และหากเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายเป็นผู้กระทำความผิดเองนั้น ต้องได้รับโทษขั้นสูงสุดด้วย ซึ่งกรณีของ ผกก.โจ้ รวมทั้งคดีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เช่นกันเมื่อมีการกระทำผิดต้องรับโทษขั้นสูงสุด”
แนะนำ : เคล็ดลับต่างๆ | เว็บรวมวิธีต่างๆ How to | จัดอันดับซีรีย์ | รีวิวครีม